5 ผลกระทบสำคัญเมื่อองค์กรถูกโจมตีด้วย Ransomware
การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ในองค์กรสามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงิน การหยุดชะงักของการให้บริการ รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหรือเป็นความลับขององค์กร โดยวันนี้เราจะมาสรุปผลกระทบหลัก 5 ข้อที่ส่งผลต่อองค์กรเมื่อถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
1. ส่งผลกับเวลาการทำงาน : การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์อาจทำให้ระบบการทำงาน หรือการให้บริการถูกหยุดชะงัก ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียประสิทธิภาพของการทำงาน.
2. ส่งผลกับการเงิน : องค์กรอาจสูญเสียเงิน จากการที่จะต้องจ่ายค่าไถ่เพื่อให้สามารถเข้าถึงไฟล์ที่เข้ารหัสได้อีกครั้ง ซึ่งบางองค์กรต้องเงินเป็นจำนวนมากในการกู้คืนไฟล์.
3. ส่งผลกับข้อมูลที่สำคัญขององค์กร: ในบางกรณี แม้หลังจะมีการจ่ายค่าไถ่แล้ว แต่ผู้โจมตีอาจไม่ได้กู้คืนไฟล์ที่สำคัญให้ หรือบางครั้งข้อมูลที่สำคัญอาจสูญหายอย่างถาวรด้วย.
4. ส่งผลต่อชื่อเสียงขององค์กร : การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ยังสามารถทำลายชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือขององค์กร เนื่องจากลูกค้า รวมถึงคู่ค้าที่มีส่วนได้ส่วนเสีย สูญเสียความไว้วางใจในความสามารถขององค์กรในการปกป้องข้อมูลของตนเอง.
5. ส่งผลต่อความรับผิดทางกฎหมาย : องค์กรอาจเผชิญกับความรับผิดทางกฎหมายหากข้อมูลที่ละเอียดอ่อน หรือเป็นความลับถูกบุกรุกจากการโจมตีของแรนซัมแวร์.
การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธี เช่น อีเมลฟิชชิ่ง เว็บไซต์ที่เป็นอันตราย และช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้อัปเดตแพตช์ .
ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่จะใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกัน และลดความเสี่ยงของการโจมตีของแรนซัมแวร์ เช่น การอัปเดตซอฟต์แวร์ และระบบอย่างสม่ำเสมอ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ รวมถึงมีการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ในกรณีของการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ สิ่งสำคัญคือองค์กรควรต้องมีแผนรับมือและกู้คืน รวมถึงต้องมีการสำรองข้อมูลอย่างต่อเนื่องในทุกวันด้วย